ชนิดของหน้ากากอนามัยและการนำไปใช้

หน้ากากอนามัย

ในยุคที่ฝุ่น PM 2.5 กับเชื้อโรคร้ายแรงอย่าง COVID-19 กำลังระบาดอยู่นั้น ทำให้มีการสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อที่จะช่วยให้หลุดรอดออกไปจากภาวะอันตรายนี้ได้แม้เพียงชั่วคราวและหนึ่งในสิ่งอำนวยความสะดวกที่ว่านี้ก็คงจะหนีไม่พ้น “หน้ากากอนามัย” เป็นแน่

“หน้ากากอนามัย” คือ สิ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อใช้ในการคัดกรองสิ่งสกปรกต่างๆ ไม่ให้เข้าจมูกและเข้าปากของเรา โดยเราสามารถแบ่งหน้ากากอนามัยออกได้เป็น 4 ชนิด หลักๆ ได้แก่

หน้ากากอนามัยที่ผลิตจากผ้า

หน้ากากอนามัยที่ทำขึ้นมาจากผ้า เป็นหน้ากากที่นิยมนำมาสวมใส่เพื่อป้องกันฝุ่นละออง และป้องกันการกระจายของน้ำลายและน้ำมูกได้ ข้อเสียคือไม่สามารถป้องกันเชื้อโรคบางประเภทไม่ให้เข้าไปได้ แต่ข้อดีของหน้ากากชนิดนี้ก็คือ สามารถนำไปซักให้สะอาดแล้วนำกลับมาใช้ใหม่ได้

หน้ากากอนามัย 3 ชั้น

แค่ดูชื่อก็คงจะรู้กันแล้วว่าเจ้าหน้ากากอนามัยนี้มีทั้งหมด 3 ชั้น โดยชั้นนอกสุดทำมาจากวัสดุ Poly Propylene Spunbond ที่ช่วยให้อากาศผ่านเข้าไปได้ มีความหนาอยู่ที่ 14-20 grams ส่วนชั้นกลางทำมาจากแผ่น Melt Blown Filter มีความหนาตั้งแต่ 20-25 grams และชั้นในสุดทำมาจากวัสดุ Poly Propylene Spunbond เช่นเดียวกันกับชั้นนอกสุด แต่มีความหนาอยู่ที่ 20-25 grams

ข้อดีของหน้ากากอนามัยประเภทนี้ก็คือเป็นหน้ากากอนามัยที่สามารถ้องกันเชื้อโรค เชื้อราได้เป็นอย่างดี แต่ไม่สามารถป้องกันไวรัสที่มีอนุภาคเล็กเป็นไมครอนได้ ส่วนข้อเสียของหน้ากากชนิดนี้ก็คือ ใช้แล้วทิ้งทำให้เกิดการสิ้นเปลือง

หน้ากากอนามัย N95

หน้ากากที่มีประสิทธิภาพในการกรองฝุ่น PM 2.5 และเชื้อโรคต่างๆ ได้ดีที่สุด แถมเจ้าหน้ากากชนิดนี้ยังสามารถป้องกันเชื้อไวรัสที่มีขนาดไม่เกิด 0.3 ไมครอน ได้อีกด้วย ซึ่งนอกจากข้อดีในด้านนี้แล้วยังมีข้อดีในเรื่องอายุการใช้งานอีกด้วย นั่นก็คือ หน้ากากชนิดนี้สามารถใช้ได้นาน 3 อาทิตย์ ถึงจะค่อยทิ้งเมื่อเทียบกับหน้ากากอนามัยอื่นที่ต้องทิ้งทุกๆ วันก็ถือว่าช่วยลดปริมาณขยะลงได้มาก แต่ทว่าข้อดีก็มักจะมาพร้อมกันกับข้อเสียเพราะยิ่งหน้ากากชนิดนี้มีข้อดีมากเท่าไรก็ทำให้มันราคาแพงมากเท่านั้น

หน้ากากกันแก๊สพิษ

เป็นหน้ากากที่สามารถป้องกันมลพิษทางอากาศได้โดยตรง ทั้งปัญหาฝุ่นควันรวมไปถึงกลิ่นแก๊สเหม็นๆ และกลิ่นสารเคมีเจ้าหน้ากากชนิดนี้สามารถป้องกันได้ แถมไม่ต้องใช้แล้วทิ้งอีกด้วย แต่ข้อเสียของหน้ากากประเภทนี้ก็คือไม่สามารถกรองเชื้อโรค เชื้อรา ไวรัส ที่ลอยเข้ามาได้เลย จึงไม่เหมาะกับการใส่เพื่อป้องกันโรคติดต่อทางเดินหายใจ